(SF) dont hate me - double b (bobby x bi)
สวัสดี..... ผมรู้จักคุณนะ แต่คุณไม่รู้จักผมหรอก แต่มันก็ไม่เป็นไร ขอแค่อย่าเกลียดกันก็พอ bobby x bi (doubleb)
ผู้เข้าชมรวม
1,884
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Don’t hate me – Bobby x BI
สวัสดี
ฉันรู้จักเธอนะ แต่เธอไม่รู้จักฉัน แต่นั่นมัน...ก็ไม่เป็นไรหรอก
สาบานได้ว่าในโรงเรียนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเขาคนนั้น ที่ทั้งดูดี การเรียนก็โดดเด่นกว่าใคร บวกกับนิสัยอารมณ์ดีขี้เล่นแบบนั้น เขาเป็นคนประเภทที่ใครๆก็อยากรู้จัก ใครๆก็อยากอยู่ด้วย เป็นบุคคลสาธารณะอะไรประมาณนั้นมั๊ง ?
แต่ก็นั่นแหละ ใครๆก็อยากรู้จักเขารวมถึงผม...
ผมคลิกเข้าเว็บบอร์ดของโรงเรียนอย่างคล่องแคล่ว เหมือนทุกวัน เลื่อนสายตาขึ้นมองกระทู้ติด top5 ของโรงเรียน ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องมีเรื่องเกี่ยวกับเขาคนนั้น
>>hot<< pic.พี่บาบิ ไปแข่งบาสโรงเรียนสตรีอีแดวันนี้ !!!
ผมคลิกเข้ากระทู้นั้น แค่อึดใจเดียวก็ปรากฏรูปเขาคนนั้นในอิริยาบถต่างๆ ทั้งตอนดื่มน้ำ ตอนเล่นบาส อดคิดไม่ได้เลยว่าตอนที่เขาสวมเสื้อกล้ามชื้นเหงื่อแบบนั้นมันเซ็กซี่สุดๆ ผมคลิกขวาแล้วเก็บรูปเขาเข้าโฟลเดอร์ทีละรูปอย่างใจเย็น โอย..พี่เขาเท่ชะมัดเท่สุดๆ ไร้คำบรรยาย ผมได้แต่คิดแบบนั้นอยู่ในใจ…ชอบ ไม่ดีผมไม่ได้ชอบพี่เขาแบบมีความรักหรอกนะ แค่พี่เขาดูดีมากๆเท่านั้นเอง
.
.
.
เราไม่เคยพูดคุยกันเลยด้วยซ้ำ
ฉันก็แค่มองเธออยู่ในที่ไกลๆ
วันที่ผมชอบที่สุดในสัปดาห์ไม่ใช่วันศุกร์ที่การเรียนแสนสบายและใกล้ถึงวันหยุด แต่กลับเป็นวันพฤหัสแบบนี้ต่างหาก
เพราะเป็นวันที่ผมจะได้นั่งมองพี่เขาระหว่างเรียน คาบเรียนก่อนเที่ยงของพี่เขา เป็นวิชาศิลปะ ที่นักเรียนต้องออกมาวาดภาพนอกห้องเรียนและอย่างที่คาด พี่เขามานั่งใต้ต้นไม้ต้นประจำพร้อมยกกระดานวาดรูปขึ้นวางหน้าตัก ใส่หูฟังจับดินสอแล้วเริ่มลงมือขีดเขียนลงบนกระดาษเปล่า
เป็นโชคดีของผม ที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างชั้น2 ทำให้มองเห็นพี่เขาอยู่ในสายตาได้ตลอด วิชาใกล้เที่ยงของวันพฤหัสของผมคือวิชาคณิตศาสตร์ที่น่าเบื่อ ยิ่งทำให้ความสนใจผมไปตกอยู่ที่รุ่นพี่คนนั้น ให้ตายสิไม่มีสมาธิเรียนเลย… แม่ครับขอโทษครับ
.
.
.
ฉันควรเข้าไปใกล้ๆ เธอไหม? ฉันควรพูดคุยกับเธอดีไหม?
เสียงทักทายว่าสวัสดีนี้มันดีรึเปล่า? เธอจะต้อนรับฉันไหมนะ?
‘นะ ฮันบินนะ ทำให้หน่อยนะ’
‘เอ่อคือ....’
‘ทำไมอ่า แค่นี้เอง รีบขอแล้วก็รีบมาเลย พี่เขาจำนายไม่ได้หรอก’
‘คือจะดีหรือ...นาอึน’
‘ดีสิ...ดี ถ้าเป็นฮันบินอะได้อยู่แล้ว นะนะนะ’
‘…’
‘โอเค เงียบแปลว่าตกลง งั้นเย็นนี้ไปขอไลน์พี่บาบิมาให้ได้นะฮันบิน สู้ๆ’
‘เฮ้ย.... เดี๋ยวดิ’
‘ไม่รู้ล่ะ ไปละ…’
...ขอไลน์พี่บาบิเนี่ยนะ ไม่ยากหน่อยหรอ? แล้วผมจะทำยังไงดี ดันไปตกปากรับคำว่าจะช่วยเพื่อนสาวคนสวยคนเดียวของผมซะแบบนั้น
ว่าแต่ นาอึนชอบพี่บาบิงั้นหรอ ชอบพี่บาบิ...เหมือนผมเลย ถ้าสองคนนั้นได้คุยกัน คงต้องชอบกันจริงๆแน่ๆ พี่บาบิก็นิสัยร่าเริง คงจะชอบเด็กผู้หญิงน่ารักช่างเจรจาแบบนาอึน... เหอะ ไม่รู้ด้วยหรอกเรื่องแบบนี้ แต่ยังไงต้องไปขอไลน์พี่เขาจริงๆใช่มั๊ย ไม่เคยจะเตรียมใจเลยนะ
.
.
.
อีก 10 นาทีจะถึงเวลาเลิกเรียนของนักเรียนม.6 ที่ต้องอยู่ติวเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยทำให้เลิกช้ากว่านักเรียนระดับชั้นอื่นๆ ในโรงเรียน
ผมยืนอยู่ตรงหน้าประตู เดียวของโรงเรียนที่ยังเปิดอยู่ เพราะนักเรียนในโรงเรียนเริ่มจะบางตาเนื่องจากเป็นเวลาค่อนข้างเย็นมากแล้ว รอบๆตัวผมมีนักเรียนหญิงที่ดูจับกลุ่มกัน 2-3กลุ่ม ในมือถือถุงกระดาษคนละใบสองใบ ท่าทางเหมือนมารอใครซักคนแต่ก็ช่างเขาเถอะ ตราบใดที่ไม่ใช่เรื่องของผมผมจะไม่สนใจแล้วกัน ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบหูฟังออกมาเสียบ เลื่อนไปเปิดเพลงที่ชอบฟังบ่อยๆช่วงนี้
อย่าทิ้งฉันไปไหนไกลเลย
ปล่อยฉันไว้ตรงนี้แบบนี้เถอะนะ
แค่ได้อยู่ใกล้ๆ เธอ ข้างๆ เธอ
ก็ทำให้ฉันคลายกังวลแล้ว
อย่าเกลียดฉันเลย...
.
.
.
ไม่นานเด็กนักเรียนม.6 ก็ทยอยกันเดินออกมาจากโรงเรียน รวมถึงเขาคนนั้น
พี่เขาบอกลาเพื่อนๆ รอบๆตัวอย่างร่าเริงตามลักษณะของเขา แล้วเดินออกมาทางประตูที่ผมอยู่
บรรดาเด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้วยเหมือนกัน ก็ต่างยื่นถุง(ที่น่าจะเป็นของขวัญ)ให้เขา พร้อมกับถามเรื่องการเรียน เรื่องส่วนตัว สารพัดเรืองที่จะสามารถหามาเพื่อจะคุยกับพี่เขาได้ ผมยืนหลบอยู่หลังกำแพงและพยายามสังเกตเหตุการณ์ต่างๆแบบไกลๆ
พี่เขารับของและตอบคำถามอย่างใจดี ตอบด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่เหมือนกับว่าเป็นของทุกคนที่นั่น ไม่ได้เป็นของใครคนนึง ...พี่บาบิของผมน่ารักจัง ไม่สิ พี่บาบิไม่ได้เป็นของผมซักหน่อย ทำไมเป็นคนขี้มโนแบบนี้ ฮือ.
ผมปิดเสียงเพลงในหูฟังลง แต่ยังเสียบหูฟังทิ้งไว้อยู่ จนเวลาผ่านไประยะหนึ่งพี่เขาก็เอ่ยปากบอกให้สาวๆเหล่านั้นกลับบ้านได้แล้ว พูดเหมือนจะไล่ แต่หน้าตาก็ยังยิ้มแย้มอยู่แบบนั้น เด็กผู้หญิงแฟนคลับเขาก็ยอมรามือแล้วก็กลับไปในที่สุด
พี่เขาเริ่มออกเดินจากประตูโรงเรียนไปที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก ผมเดินตามเขาไปติดๆ แล้วแสร้งทำเป็นว่ายืนรอรถเมล์เหมือนกัน ทั้งๆที่จริงๆแล้วบ้านผมอยู่ถัดไปอีก 3 บล็อกจากโรงเรียน...เดินไปยังไม่ทันเมื่อยก็ถึง
ผมเห็นด้วยหางตา ว่าพี่เขาลอบมองผมอยู่ สงสัยเขาจะรู้ซะแล้วมั๊งว่าผมแอบตามเขามา ไม่ทันได้มโนใหญ่โต ก็รับรู้ถึงแรงสะกิดจากคนข้างๆ ผมถอดหูฟัง(ที่ไม่ได้เปิดเพลง)เก็กหน้าให้นิ่งทั้งที่ตื่นเต้นจะตายแล้วถึงหันไปหาเขา
‘...ครับ’
‘น้องกลับบ้านได้แล้วนะครับ มารอพี่จนเย็นแบบนี้มันไม่ดีหรอกเดี๋ยวที่บ้านจะเป็นห่วง..’
‘เอ่อคือ....’ ผมก้มหน้ามองเท้าไม่รู้จริงๆว่านาทีนี้จะตอบอะไรออกไปดี พี่เขาคงจะรู้ถึงความอึดอัดของผมจึงได้พูดต่อ
‘พี่ว่า เรายังไม่ได้คุยกันเลยเนาะ งั้นเอาเป็นว่าเอาไล...’
‘ผมขอไลน์พี่หน่อยครับ !!!’ ในที่สุดผมก็รวบรวมความกล้าบอกจุดประสงค์ที่แท้จริงออกไป ผมไม่ได้ยินหรอกว่าก่อนหน้านั้นพี่เขาพูดอะไร เสียงหัวใจผมมันเต้นดังมากๆ จนกลบเสียงทุกอย่างไปหมด
‘อ๋อ...โอเค’ พี่เขารับคำอย่างว่าง่ายก่อนหยิบปากกาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วใช้มืออีกข้างจับมือของผมขึ้นมาแล้วเขียนขยุกขยิกลงบนนั้น
... เขินมาก ณ จุดนี้ สาบานได้ว่าให้ตายวันนี้ฮันบินก็จะไม่ล้างมือ
.
.
.
‘เอาหล่ะ ทีนี้กลับบ้านได้แล้วเนาะเด็กน้อย’ พี่เขาพูดพร้อมกับยิ้มจนตาปิด ผมใจเต้นไม่ได้เพราะรอยยิ้มนี้มันเป็นของผม คนอื่นกลับกันหมดแล้ว ดังนั้น! ตอนนี้! รอยยิ้มของพี่บาบิคนใจดีเป็นของผม... ทำไมเขามีวิธีหลอกล่อแฟนคลับได้เก่งขนาดนี้นะ
‘ครับ... แล้วพี่ล่ะ’
‘พี่ก็รอเรากลับก่อนไง...’ ฮื่อ...เขินอีกที ทำไมน่ารักขนาดนี้ก็ไม่รู้ ผมจึงโค้งให้พี่เขาเล็กน้อยแล้วหมุนตัวเดินไปยังทางกลับบ้าน ในหัวผมมีแต่เรื่องของเขา พี่บาบิ น่ารักอบอุ่นขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ย ถ้าน่ารักกว่านี้ผมคงจะชอบแล้วนะ ฮึ
ผมล้มตัวลงบนที่นอนที่แสนคุ้นเคย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
ชั่งใจว่าจะแอดไลน์พี่เขาไปดีมั๊ย? พี่เขาก็ให้ไลน์เรามาง่ายๆแบบนั้นในไลน์ก็คงมีแต่แฟนคลับเยอะแยะไปหมดล่ะมั๊ง?... เขาจะจำเราได้ไหม? ถ้าทักไปแล้วเขาจะตอบไหม? ถ้าเขาอ่านแล้วไม่ตอบ กับไม่แอดไม่ทักไม่คุย อย่างไหนเราจะเสียใจน้อยกว่ากันล่ะเนี่ย... แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ไว้พรุ่งนี้ค่อยคิดละกัน
เพราะฉันมันตัวคนเดียว
ฉันจะไม่หวังอะไรไปมากกว่านี้ หรือแม้แต่เธอจะเรียกชื่อฉัน
.
.
.
‘ฮันบินเน่........ ไหนๆสรุปได้มามั๊ย’
‘อื้มม นี่ไง’ ผมจดไลน์พี่เขาไว้บนกระดาษเล็กๆ แล้วยื่นมันให้นาอึน เธอยิ้มแบบดีใจสุดๆก่อนรับมัน แล้วกลับไปนั่งที่ประจำ เธอนั่งกดมือถืออยู่พักใหญ่ ท่าทางมีความสุขขนาดนั้น คงได้คุยกับพี่บาบิแล้วละมั๊ง เฮ้อ
ผมล่ะเกลียดตัวเองจริงๆที่ไม่มีความมั่นใจอะไรแบบที่คนอื่นเค้ามีกัน
ไม่งั้นผมคงแอดไลน์พี่เค้าไปแบบไม่ลังเลแล้ว
ผมกลับมานั่งคิดนอนคิดอยู่บนเตียงเดิม ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเป็นรอบที่ร้อย พิมไอดีไลน์ของพี่เขา รอมันโหลดจนปรากฏรูปดิสเพลย์พี่เขากับเพื่อนๆทีมบาสกอดคอกันยิ้มแฉ่ง โอย....ไม่กล้าแอด ผมกดออกโปรแกรมอีกครั้งก่อนกดล็อกหน้าจอ
เอาว่ะ พี่เค้าจำไม่ได้ไม่เป็นไรหรอก แค่ได้คุยกันก็กำไร ถ้าจำไม่ได้เราก็เท่าทุน พอคิดแบบนั้น ผมก็กดแอดไลน์พี่เขาไปแบบไม่ลังเลอีก
แล้ว.... จะทักไปว่ายังไงดีนะ
‘สวัสดีครับ จำผมได้ไหม ที่ป้ายรถเมล์เมื่อวาน...’ ไม่ดีมั๊ง *ลบ*
‘โยว่ hello ผมฮันบิน ม.5/A ครับ อายุ 17 ปี น้ำหนัก 58 สีที่ชอบ สีแดงครับ...’ แบบนี้จะดีเหรอ *ลบ*
‘สวัสดีครับ อยากรู้จัก’ ...ในที่สุดผมก็เขียนไปแค่นี้
.
.
.
READ
โอ๊ะ พี่เขาอ่านแล้ว พี่เขาจะว่าไงนะ... ผมตื่นเต้นมือสั่นไปหมดจนโทรศัพท์จะร่วง กดล็อคหน้าจออย่างไวก่อนจะขว้างโทรศัพท์ไปกลางเตียง
...ผมไม่พร้อม นะจริงๆ
-ติ๊ง-
เสียงเตือนข้อความเข้าโปรแกรมไลน์ ผมพลิกโทรศัพท์มาดูช้าๆก่อนจะเห็นข้อความตอบกลับของเขา
‘ครับ น้องฮันบิน ม.5/A พี่ชื่อบาบิ ชื่อจริงคิมจีวอน อายุ 18 ปี หน้าตาไม่ดี ไม่มีรถขับ ต้องกลับรถเมล์ แต่หัวใจพี่เทให้น้องไปนานแล้วนะครับ. ^^’
-ติ๊ง-
‘ถ้าอยากรู้จักมากขึ้นอีก...ก็มาเป็นแฟนพี่สิครับ’
- END -
เหมือนเรื่องจะหน่วงแต่จบแบบนี้ได้ไง เราต้องมีสเป มะ?
จะมีคนอ่านป่าวเหอะ เอาเป็นว่าฟิคนี้แต่งให้รู้ว่ายังรอทีมบีนะ ดู SMTM3 ละคิดถึงน้องมาก ๆ เลิ้บนะทุกคนนน
ผลงานอื่นๆ ของ AT,thiS.Time ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ AT,thiS.Time
ความคิดเห็น